สาระน่ารู้

ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ทะเลโฟม ( Whipping Cream Ocean )

ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่สวยที่สุดในโลก 14

Whipping Cream Ocean เป็น ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นบริเวณชายฝั่งทางเหนือของ เมืองซิดนี่ย์ ( Sydney ) ที่ยัมบา ( Yamba ) ของ นิวเซาธ์เวลส์ ( New South Wales ) และได้แปรเปลี่ยนชายฝั่งเป็น คาปูชิโนใน ( Cappuccino Coast ) ฟองโฟนได้กลืนกินทั้งหาด และอาคารสิ่งก่อสร้างไปกว่าครึ่งหลังที่ก่อสร้างอยู่ริมชายหาด ไม่เว้นแม้แต่ศูนย์หน่วยกู้ภัยชายหาดท้องถิ่น ฟองโฟนนี้นกินอาณาบริเวณออกไป กว่า 30 ไมล์จากชายฝั่ง
โดยนักวิทยาศาสตร์ได้อธิบายถึงสาเหตุของ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ นี้ไว้ว่าเกิดจาก ความบังเอิญหลายอย่างที่ลงตัว ฟองโฟมเหล่านี้ไม่ได้เกิดสิ่ง สวยงาม แต่มันเกิดจาก สิ่งสกปรกต่างๆ ที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น ทำให้ทะเลสกปรก , เกิดจากเกลือ , เกิดจากปฎิกริยาทางเคมี , การเน่าเปื่อยของซากพืช ซากสัตว์ในทะเล ปลา ที่เกิดจากน้ำเสียที่มนุษย์ไ้ด้สร้างขึ้น เมื่อทุกอย่างมารวมตัวกันด้วยส่วนผสมที่ลงตัว และมีคลื่นที่เคลื่อนตัวแล้วม้วนตัวลงก็จะทำให้เกิดฟอง และเมื่อคลื่นได้เคลื่อนมากระทบฝั่งจะคลายฟอง ออกมาสะสมอยู่ที่ริมชายหาดสะสมตัวขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ





5 ทริคถ่ายรูปยังไงให้ภาพออกมาดูดี

1. มุมแคบหรือมุมกว้าง
การใช้มุมแคบหรือมุมกว้างในการถ่ายรูปก็จะเป็นการนำเสนอให้ภาพมีความน่าสนใจที่แตกต่างกันไปด้วย โดยเฉพาะถ้าเราอยู่ในสถานที่ที่มีความสวยงามแล้ว ก็ไม่ควรปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดลอยไป เพราะการถ่ายภาพเน้นบุคคล เราสามารถถ่ายที่ไหนฉากยังไงก็ได้ แต่ถ้าเราอยู่ในสถานที่ดีๆ แล้วการที่จะแนะนำเสนอภาพโดยใช้สถานที่นั้นๆ มีความสำคัญและช่วยส่งเสริมให้ภาพดูสวยและน่าสนใจได้มากยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้นแล้วการถ่ายภาพในมุมที่กว้างกว่าเดิมมากขึ้นเพื่อให้เห็นฉากด้านหลังคนในรูป จะทำให้ผู้ที่เห็นรูปรู้สึกมีความสนใจที่จะดูได้มากขึ้นด้วยนั่นเอง
2. ใส่ฟิลเตอร์ก็ให้อารมณ์ที่แตกต่าง
ilter คือเทคนิคพิเศษสำหรับการแต่งรูปถ่าย ไม่ว่าจะมีมาอยู่กับกล้อง หรือมือถืออยู่แล้วสามารถใช้ตอนถ่ายได้เลย หรือว่าจะทำเพิ่มผ่านแอพพลิเคชั่น หรือ Photoshop ในภายหลังการถ่ายรูปก็ตาม มีมากมายหลากหลายให้เราได้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นแนวถ่ายรูปธรรมชาติ ถ่ายรูปโทนอบอุ่น ถ่ายรูปแนวย้อนยุค ถ่ายรูปเน้นโทนสีขาวดำ ถ่ายรูปเลียนแบบกล้องโพลารอยด์ ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่จะทำให้รูปมีความน่าสนใจได้มากยิ่งขึ้นกว่ารูปที่ถ่ายมาแบบปกตินั่นเอง เหมาะแก่การนำเสนอรูปในแบบเซ็ตเดียวกันที่ต้องการให้ Mood หรือ Tone อยู่ในรูปแบบเดียวกันทั้งหมดด้วย เพื่อความสวยความเป็นระเบียบโดยรวมด้วยนั่นเอง


3. ท่าโพสต์ต้องดีด้วย
ต่อให้ตากล้องเก่งแค่ไหน หรือว่าจะมีการจัดวางองค์ประกอบของภาพดีแล้วก็ตาม แต่ถ้าคนที่ถูกถ่ายวางท่าแปลกๆ ไม่เป็นธรรมชาติ เกร็ง หรือว่าประดิษฐ์มากเกินไป ก็อาจจะทำให้ภาพออกมาดูแปลกๆ เอาได้ และท่าทางการนั่ง การยืน การเดิน ในองศาที่แตกต่างกันก็ทำให้รูปร่าง ความสง่างาม และพลังของคนในรูปมีความแตกต่างกันไปอีกด้วยค่ะ ลองเทียบจากนางแบบดูก็ได้ ท่าเดียวกัน แต่ทำไมถึงมีเสน่ห์ดึงดูดแตกต่างกันใช่ไหมล่ะ? ดังนั้นก็ควรเรียนรู้การวางท่าที่ดี สำหรับการถ่ายรูปจากภาพตัวอย่างของคนอื่นๆ ไว้เป็นไอเดียเป็นแนวทางให้เยอะๆ ดูค่ะ


4. แสงส่งผลกับภาพมากๆ
ถ้าหากว่าเราไปถ่ายรูปวันที่มีแสงแดดจ้าๆ ออกจะร้อนสักนิดนึง กับวันที่ฟ้ามืดหม่นมีฝนตกพรำๆ แล้ว นำมาเปรียบเทียบกันดู ก็จะเห็นได้ถึงความแตกต่างของภาพถ่ายทั้งสองวันนี้อย่างเห็นได้ชัดเจน ความสว่างจะทำให้เราเห็นภาพของวัตถุบุคคลต่างๆ ในรูปออกมาได้อย่างชัดเจน มีการแสดงสีสันออกมาให้เห็นอย่างสวยงามมากๆ อีกด้วย ส่วนในบรรยากาศที่มืดครึ้มก็จะทำให้เห็นภาพต่างๆ ได้ชัดเจนน้อยลง ดูสีก็มืดมนลงด้วย ทำให้ถ่ายภาพได้สวยๆ ยาก แต่ก็ไม่ใช่ข้อเสียเสมอไป ถ้าอยากได้ภาพที่มีอารมณ์มืดดำหรือขุ่นมัวก็จะทำให้ได้ฟีลโศกเศร้า เหงาๆ ดีกว่าเลือกถ่ายในแสงเยอะๆ สว่างๆ ดีเหมือนกันค่ะ


5. ใช้มุมกล้องให้เป็น
ถ่ายรูปแบบมุมตรงๆ ทื่อๆ เกินไปทำให้ภาพดูแข็งๆ ไร้มิตินะ ดังนั้นถ้าจะทำให้ภาพดูดี น่าสนใจมากขึ้นก็ต้องใส่ใจกับกฎสามส่วนด้วย กฎ 3 ส่วนคืออะไร? ก็คือไม่ว่าภาพจะอยู่ในแนวตั้งหรือแนวนอน ถ้าหากว่าเราแบ่งภาพออกเป็น 3 ส่วน ไม่ว่าจะแนวตั้งหรือแนวนอนก็จะเกิดจุดตัดกันทั้งหมด 4 จุดซึ่ง 4 จุดนี้ก็คือตำแหน่งเหมาะสมในการจัดวางวัตถุต่างๆในภาพ ซึ่งควรจะมีวัตถุหรือบุคคลอยู่ใกล้ตรงจุดทั้ง 4 จุดนี้ก็จะทำให้ภาพออกมาดูเหมาะสมและสวยงามขึ้นได้แล้วล่ะค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น